วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2551

เล่าสู่กันฟัง บทเรียนจาก ม.รามคำแหง

สำหรับผมนั้น ก็หลังจากสำเร็จการศึกษา จาก โรงเรียนจ่าอากาศแล้ว ก็มีความสนใจที่จะทำการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีเหมือนกับคนอื่น ๆ นั้นแหละครับ แต่ว่าจะสาเหตุใด ๆ ก็ตาม กระผมก็ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองจาก สถาบันที่ทุกคนรู้จัก และเรียกกันว่า "รามคำแหง" ฟังดูแล้วก็น่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้วใช่ไหมครับ อือม แต่ว่า ในแวดวงทหาร และตำรวจนั้น หรือ คนที่ไม่มีเวลา แล้วต้องแบ่งเวลาไปศึกษา นั้น ก็ถือได้ว่า หนักมากเอาการเลยทีเดียวครับ คือพูดง่าย ๆ ว่า จะมาเรียนแล้วทำเป็นเล่น ๆ ไปวัน ๆ นั้น รับรองว่าไม่จบแน่ครับ ผมเคยมีประสบการณ์ได้ฟังคำบอกเล่าจากรุ่นพี่ ๆ ผมหลาย ๆ คนบอกว่า คิดดูให้ดีนะ ว่าไปเรียนรามนั้น มันลำบากหลายอย่างนะ ขนาดตัวของรุ่นพี่คนนั้น ก็ยังไม่จบเลย แกสอบได้ประมาณ 60 หน่วยกิต แล้วก็ต้องเลิกไป จะด้วยสาเหตุใดนั้น กระผมไม่ขอเปิดเผยครับ (ความลับอิอิ) อือม แต่สำหรับตัวผมแล้วนั้น เมื่อเริ่มต้นเข้าเรียนที่รามคำแหงนั้น คิดอย่างเดียวครับ คือ ต้องจบ ต้องจบ ถ้าไม่จบ เสียชื่อ เด็กบ้านนอกอย่างเราเป็นแน่ ครับ นึก ๆ ดูก็ตลกดีครับ งานก็มีทำแล้ว เงินเดือนก็ได้รับ อะไร ๆ หลาย ๆ อย่างก็ถือว่าดี แต่ผมมานั่งนึก ๆ ดูว่า เวลาบ้างครั้งมันยังพอมีอยู่เช่น หลังเลิกงานไปแล้ว หรือแม้แต่ตอนที่เราทำงานก็ตาม บางทีเราอาจจะว่าง ๆ แล้วไม่รู้จะทำอะไร ถ้าได้หยิบหนังสือ หนังหามานั่งอ่าน ๆ บ้าง ก็คงดี ดีไม่ดี ถ้าเราสอบผ่านราม ก็อาจจะได้รับปริญญากับเขาเหมือนกัน และที่ตั้งใจไว้ที่สุดเลยก็คือ จะเรียนปริญญาให้จบ เพื่อความฝันของพ่อ และแม่ครับ นี่แหละครับจึงเป็นเสมือนแรงจูงใจของผม จนถึงทุกวันนี้ สำหรับตอนนี้ก็จบมาได้หลายปีแล้วครับ

เทคนิคการไปสอบราม
1. ต้องรู้จักสถานที่สอบให้แน่นอนไม่ว่าจะเป็น อาคารหมายเลข หรือชื่ออะไร, ชั้นที่เท่าใด, ห้องสอบอะไร
อย่ามั่วนะครับ เพราะจะหลงและไม่ทันเข้าสอบ แล้วท่านจะเสียใจ ที่ต้องมาสอบซ่อม 555
-สถานที่สำหรับสอบนั้น มี 2 แห่งครับ คือ รามคำแหง 1 (หัวหมาก) และ รามคำแหง 2 (บางนา) เอาเฉพาะใน กทม.นะครับ สาขาวิทยะบริการ ไม่นับ
-อาคารสอบ ก็ตัวอย่างเช่น KLB301 อันนี้ก็จะเป็นที่ รามคำแหง 1 ชื่อตึกก็อ่านเอานะ สำหรับตัวเลข 301 ก็จะเป็น ชั้นที่ 3 ห้องที่ 1 ครับ แล้วที่เหลือก็ดูและอ่านรหัสประจำตัวสอบของเรา ว่าเลขที่นั่งตรงไหน แล้วก็เดินเข้าไปนั่งประจำที่ครับ
2. เมื่อเวลาเราเข้าห้องไปแล้วอย่าลืมนำกระเป๋าและของมีค่าเข้าไปด้วยนะครับ ว่างไว้ใต้โต๊ะครับ อาจารย์เข้าไม่ว่าหรอก ผมเคยมีประสบการณ์เรื่องนี้ครับ วางกระเป๋าไว้หน้าห้อง พอสอบเสร็จ โธ่ หายไปเลย เชื่อไหมครับว่า ไม่สามารถเอากลับคืนมาได้เลยแม้แต่อย่างเดียว ข้างในมี เสื้อโปโลอย่างดี ซาวเบาว์ 1 เครื่อง อันตธานหายไปเมื่อตอนสอบเสร็จ คิดดูครับว่า เซ่งขนาดไหน
ฉะนั้น พยายามอย่าลืมไว้หน้าห้อง หรือว่าทิ้งไว้กับคนที่เราไม่รู้จักนะครับ เพราะมันจะหาย เตือนไว้ก่อน

วันนี้แนะนำแค่นี้ก่อน ไว้ว่าง ๆ จะมาบอกใหม่

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก